เศรษฐกิจสะดุด ส่งคนแห่เรียนเสริมสวยเอาตัวรอด “นิรันดร์รัตน์” รับทรัพย์ ลูกศิษย์สมัครเรียนสูงกว่าปีก่อน 10% ชี้อาชีพเสริมสวยตัดแต่งผมมาแรง เดินหน้าขยายสาขาแฟรนไชส์อีก 3 สาขา มั่นใจสิ้นปีขยับรายได้โตอีก 10% หลังปีก่อนทรงตัว
นายธรรมรัตน์ เต็มนิรันดร์รัตน์ ในฐานะทายาท โรงเรียนสอนตัดเสื้อ-เสริมสวย นิรันดร์รัตน์ เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจโรงเรียนสอนเสริมสวยในปัจจุบัน ยอมรับว่ายังมีการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะในเรื่องของราคา จะนำมาใช้กันค่อนข้างสูง ทั้งนี้ไม่สามารถประเมิณได้ว่ามูลค่าตลาดนี้มีอยู่ประมาณเท่าไร เนื่องจากทั่วประเทศมีโรงเรียนที่เปิดสอนกันทั่วไป
อย่างไรก็ตามสำหรับโรงเรียนสอนตัดเสื้อ-เสริมสวย นิรันดร์รัตน์ พบว่า ในปีนี้แนวโน้มของผู้ที่เข้ามาสมัครเรียนทั้งทางด้านตัดเสื้อและเสริมสวยสูงขึ้นจากปีก่อน ราว 10% จากจำนวนประมาณ 2,000 คนในปีก่อน มองว่าคุณภาพของการเรียนการสอน ค่าเล่าเรียนที่เป็นธรรม และชื่อเสียงของโรงเรียน เป็นจุดแข็งที่สำคัญที่ทำให้ในปีนี้มีคนมาสมัครเรียนสูงขึ้น ขณะเดียวกันพบว่าคนไทยในปัจจุบัน ต้องการที่จะเป็นเจ้าของกิจการมากกว่าเป็นลูกจ้าง รวมถึงต้องการหาอาชีพที่สามารถก้าวผ่านวิกฤติทางเศรษฐกิจที่ผ่านมาให้ได้ ดังนั้นวิชาชีพด้านการตัดเสื้อและเสริมสวยจึงเป็นทางออกที่น่าสนใจ
ทั้งนี้ในส่วนของร้านนิรันดร์รัตน์นั้น ปัจจุบันมีอยู่ 24 สาขาทั่วประเทศ โดยกว่า 7 สาขา เป็นการลงทุนเอง และที่เหลือ 17 สาขา เป็นแฟรนไชส์ ซึ่งก่อนจะถึงสิ้นปีนี้ จะมีการขยายสาขาในลักษณะแฟรนไชส์อีก 3 สาขา เช่น มหาสารคาม และน่าน โดยผู้ซื้อแฟรนไชส์ จะเสียค่าแฟรนไชส์ฟรีที่ 1 แสนบาท พร้อมทั้งต้องซื้ออุปกรณ์ของทางโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ถ้าหยุดซื้อถือว่าแฟรนไชส์สิ้นสุดลง
นายธรรมรัตน์ กล่าวต่อว่า การที่โรงเรียนนิรันดร์รัตน์มีผู้สนใจเข้ามาเรียนเพิ่มมากขึ้นนั้น ส่วนสำคัญมาจากราคาค่าเล่าเรียนถูกกว่าคู่แข่งประมาณ 2-3 เท่าตัว โดยทางโรงเรียนจะสอนจนกว่าจะนำไปประกอบวิชาชีพได้ ทั้งนี้มองว่าจากตัวเลขของคนที่มาสมัครเรียนสูงขึ้นนั้น รวมถึงการขยายแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่อง มองว่าสิ้นปีนี้ ทางโรงเรียนนิรันดร์รัตน์ จะมีผลประกอบการเติบโตขึ้นอีกอย่างน้อย 10%
อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์20 กันยายน 2553